เที่ยวเมืองรองกับไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่

บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ประเทศไทย จำกัด ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เมื่อเดือนมีนาคม 2561 ที่ผ่านมา ภายใต้กิจกรรม “เที่ยวเมืองรองกับไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่”  เริ่มต้นด้วยการจัดทำหนังสือแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวใน55 จังหวัดเมืองรองแจกฟรีให้ผู้ที่สนใจกว่าเจ็ดหมื่นเล่มแล้ว ยังได้จัดคาราวานท่องเที่ยวสุดExclusive 5 ภูมิภาค 5 เส้นทางตลอดปี 2561เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทยในจังหวัดเมืองรองของประเทศภายใต้โครงการ Amazing Thailand Go Local เที่ยวท้องถิ่นไทยชุมชนเติบใหญ่ เมืองไทยเติบโต กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวภายในประเทศไทย

ตั้งแต่เริ่ม โครงการได้รับการตอบรับอย่างดีจากผู้สมัครร่วมกิจกรรมรวมเกือบหมื่นรายชื่อ  โดยคาราวาน“เที่ยวเมืองรองกับไฮลักซ์ รีโว่ร็อคโค่” จัดขึ้นมาแล้ว 4 ครั้ง และทุกๆครั้งจะมีกิจกรรมพิเศษสนับสนุนกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเสมออาทิ เช่น การปรับปรุงทัศนียภาพในแหล่งชุมชนให้เหมาะสมในการแนะนำเพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยวสร้างจุดแลนด์มาร์คถ่ายรูปเพื่อประชาสัมพันธ์สถานที่ท่องเที่ยว ซ่อมแซมหลังคาเรือเพื่อสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ทางทะเลและสร้างลานเอนกประสงค์เพื่อให้ชุมชนมีความแข็งแรงในการหารายได้จากการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมนอกจากนี้ยังมีการจัดทำสกู๊ปพิเศษในแต่ละทริปออกอากาศทั้งในสื่อออฟไลน์และออนไลน์เพื่อประชาสัมพันธ์เมืองรองให้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในทุกๆเส้นทางที่เราไป

ครั้งนี้เป็นเส้นทางที่ 5 ซึ่งเป็นเส้นทางสุดท้ายของปีนี้กับกิจกรรมคาราวานไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ ทางบริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย ได้นำไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ เกือบสี่สิบคันพาผู้ที่สนใจร่วมเดินทาง มุ่งสู่ภาคเหนือไปยัง จังหวัดน่าน – แพร่ –เชียงราย

จุดเริ่มต้นของการเดินทางภาคเหนือด้วยการท่องเที่ยวภายในจังหวัดน่านจังหวัดเล็กๆ แต่ให้วิวธรรมชาติที่น่าประทับใจ เราใช้ทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 101 มุ่งหน้าไปยัง อำเภอปัวระยะทาง 65 กม. เพื่อให้ผู้ร่วมทริปได้ทำความคุ้นเคยกับรถกระบะไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ เริ่มต้นด้วยการนมัสการหลวงพ่อพุทธเมตตาเพื่อเป็นสิริมงคลที่วัดภูเก็ตร่วมแขวนตานตุง เสริมดวงรับปีใหม่

จากนั้นไปจิบกาแฟยามบ่ายที่ร้านกาแฟไทลื้อ ร้านกาแฟที่ตกแต่งตามสไตล์ของชุมชนชาวไทลื้อผสมล้านนา ประดับไปด้วยผ้าผ้าทอไทลื้อที่ทางชุมชนผลิตและจัดจำหน่ายเอง ท่ามกลางความสวยงามกับทุ่งดอกไม้ซึ่งถือได้ว่าเป็นจุดเช็คอินแนะนำสำหรับใครที่จะมาเที่ยวน่านเลยทีเดียวในอำเภอปัวเป็นอำเภอที่มีชาวไทลื้ออยู่มากที่สุด และมีวัฒนธรรมประเพณีเป็นของตนเองโดยเฉพาะเรื่องการแต่งกายแบบพื้นบ้าน ถือเป็นที่จุดหนึ่งที่ไม่ควรพลาดกับการเช็คอินหลังจากเก็บภาพกันอิ่มใจ เราเดินทางกลับสู่ตัวเมืองจังหวัดน่าน ด้วยเส้นทางหมายเลข1081 เข้าสู่เส้นทาง 1169 ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นถนนลอยฟ้า เพลิดเพลินกับเส้นทางสายธรรมชาติที่มีความสูงชันไต่ความชันขึ้นเรื่อยๆ จากอยู่ข้างเขาจนสู่สันเขา พร้อมวิวธรรมชาติ 2 ข้างทางบรรยากาศสุดฟินความยาวเกือบ10 กม. ซึ่งในวันแรกผู้ร่วมทริปทุกท่านจะได้ขับไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ รวมระยะทางกว่า 132 กม. มาปิดท้ายวันด้วยการรับประทานอาหารริมแม่น้ำน่านที่ร้านเฮือนเจ้านาง พร้อมชมพระอาทิตย์ตกในบรรยากาศสุดโรแมนติก

ขบวนคาราวานรีโว่ ร็อคโค่ก็มุ่งหน้าสู่ จังหวัดแพร่ โดยใช้เส้นทางหมายเลข101 รวมระยะทาง 115กม. ร่วมทำกิจกรรมที่ศูนย์การเรียนรู้ย้อมผ้าหม้อห้อมป้าเหงี่ยม บ้านทุ่งโฮ้ง ที่ถือเป็นต้นกำเนิดของหม้อห้อมในประเทศไทยและเป็นสินค้าพื้นเมืองที่ขึ้นชื่อของทางภาคเหนือซึ่งในทริปนี้ผู้ร่วมทริปทุกท่านจะได้เรียนรู้และสัมผัสวีถีชีวิตชุมชนในการทำผ้ามัดย้อมแบบต้นฉบับอีกทั้งยังได้ทดลองย้อมผ้าด้วยสีห้อมด้วยตัวเอง และสามารถอุดหนุนชุมชนด้วยการเลือกซื้อผลิตภัณฑ์อื่นๆที่ตลาดทุ่งโฮ้งได้อีกด้วย

จากนั้น ก็ต้องเติมพลังมื้อเที่ยงด้วยอาหารพื้นเมืองแพร่ซึ่งเราได้เลือกร้านปั๋นใจ๋ ร้านขนมจีนที่มีน้ำยาขนมจีนขึ้นชื่อหลากหลายอย่างโดยเฉพาะ “น้ำหมู” ขนมจีนน้ำใสสูตรเมืองแพร่คล้ายน้ำก๋วยจั๊บญวนที่ต้องลองชิมให้ได้ ก่อนที่จะลุยเคลื่อนขบวนคาราวานต่อไปสู่จังหวัดเชียงรายด้วยทางหลวงหมายเลข 1 ซึ่งเป็นเส้นทางที่ให้ผู้ร่วมทริปได้ทดสอบสมรรถนะของไฮลักซ์รีโว่ ร็อคโค่ ได้อย่างเต็มที่ไม่ว่าจะเป็นกำลังของเครื่องยนต์ และ อัตราเร่ง พร้อมด้วยฟังก์ชั่นตัวช่วยในการขับขี่สำหรับทางลาดชันทั้งขึ้นและลงเขาผู้ขับขี่ยังสามารถสัมผัสถึงความหนึบของช่วงล่างที่ออกแบบมาพิเศษเพิ่มสมรรถนะในการทรงตัวยึดเกาะถนนและเข้าโค้งบนถนนระหว่างจังหวัดตลอดระยะทาง 240 กม. นี้ได้อย่างดีเยี่ยม

หลังจากพักผ่อนกันอย่างเต็มที่ พร้อมตะลุยเส้นทางกันต่อในจังหวัดเชียงราย เริ่มเคลื่อนขบวนคาราวานวันสุดท้ายด้วยเส้นทางหมายเลข1211 ขึ้นไปยัง ดอยอินทรีย์ ซึ่งอยู่ในโครงการพัฒนาป่าไม้ในปี 2550(โครงการพระสงฆ์ช่วยงานด้านป่าไม้) ระยะทาง 25 กม. สักการะพระพระพุทธรูปปางไสยาสน์ที่วัดพุทธอุทยานดอยอินทรีย์ ก่อนที่ขบวนไฮลักซ์รีโว่ ร็อคโค่จะตะลุยเส้นทาง off road ซึ่งผู้ร่วมทริปสามารถทดสอบสมรรถนะของไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ และพาทุกท่านไปร่วมทำกิจกรรมสร้างฝายชะลอน้ำ ดอยอินทรีย์ถือเป็นป่าต้นน้ำของลำน้ำกกเพื่อร่วมกันอนุรักษ์พื้นที่ป่าต้นน้ำของจังหวัดเชียงราย หนึ่งในแนวทางเกษตรยั่งยืนและเกษตรอินทรีย์โครงการเดินตามรอยเท้าพ่อในรัชกาลที่ 9 จากนั้นมุ่งหน้าสู่ดอยผาหมีจุดแลนด์มาร์คอีกแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย เพื่อประทานอาหารกลางวันท้องถิ่นและจิบกาแฟในบรรยากาศท่ามกลางหุบเขาที่บ้านผาหมีซึ่งในปัจจุบันกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้รวมตัวกันพัฒนาหมู่บ้านผลักดันให้เป็นที่รู้จักจนเกิดเป็นจุดท่องเที่ยวเพื่อเป็นการสร้างรายได้ให้กับชุมชนในโอกาสนี้ กิจกรรม“Go Localby REVO ROCCO” หรือ เที่ยวเมืองรองกับไฮลักซ์รีโว่ ร็อคโค่ จึงขอสนับสนุนชุมชนโดยการมอบป้ายบอกแหล่งท่องเที่ยวและรั้วแสดงจุดจอดรถสำหรับนักท่องเที่ยวมอบให้แก่ชุมชนบ้านผาหมีเพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจชุมชนบ้านผาหมีแข็งแรงยิ่งขึ้น ซึ่งถือเป็นอีกวัตถุประสงค์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของโครงการ“Go Local by REVO ROCCO” ในทุกๆเส้นทางตลอดปีนี้ที่เราทำมา จากนั้นแวะซื้อของฝากประจำจังหวัดและเดินทางกลับเป็นการสิ้นสุดการเดินทางตลอด 3 วัน

ตลอดการเดินทางทั้งสามวันผู้ร่วมกิจกรรมได้สัมผัสประสบการณ์ในการขับขี่ของไฮลักซ์ รีโว่ ร็อคโค่ ได้อย่างเต็มที่ ถือได้ว่าเป็นรถกระบะที่ให้ความสะดวกสบายแก่ผู้ขับขี่และผู้ร่วมเดินทางในระยะทางไกลสะท้อนภาพลักษณ์ Boutique Toughness ด้วยขุมพลัง GDEfficient Boost เพิ่มประสิทธิภาพในการเผาไหม้ลดการสูญเสียความร้อน ให้แรงบิดสูงสุดในรอบกว้าง (Flat Torque) ทั้งในช่วงออกตัวหรือเร่งแซง พร้อมกับเทคโนโลยีช่วยประหยัดน้ำมันและยังมี DRIVE MODE ทั้งแบบประหยัด (ECO Mode) และ แบบสมรรถนะสูง (Power Mode)ให้ผู้ขับขี่ได้เลือกปรับใช้ตามความต้องการรวมทั้งความหนึบของช่วงล่างในการยึดเกาะถนนการเข้าโค้งได้อย่างดีเยี่ยมตลอดเส้นทาง ให้ความมั่นใจปลอดภัยในการขับขี่ทุกสภาพถนน ห้องโดยสารที่เงียบและกว้างขวาง พร้อมอุปกรณ์ในห้องโดยสารอำนวยความสะดวกสำหรับการเดินทางทั้งใช้งานปกติและท่องเที่ยวด้วยฟังก์ชันที่ครบครันมาพร้อมดีไซน์ภายนอก แกร่งดุดัน เหมาะกับผู้ใช้รถที่มีสไตล์ท้าทายทุกรุปแบบ