เบนท์ลีย์ มอเตอร์สประกาศยอดขาย 11,206 คันสำหรับปี 2563 ซึ่งโตขึ้นกว่า 2 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปี 2562 ถึงแม้ว่าการประมาณการยอดขายก่อนการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 จะมีจำนวนสูงกว่ามาก แต่การเปิดตัวของโมเดลใหม่อย่าง “ดิ ออล์นิว ฟลายอิ้ง สเปอร์” ก็ได้สร้างปรากฎการณ์ใหม่ ซึ่งถือเป็นความสำเร็จในการทำยอดขายที่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา
เบนท์ลีย์ มอเตอร์สได้หยุดสายงานการผลิตชั่วคราวเป็นเวลากว่า 7 สัปดาห์ โดยเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม และลดปริมาณการผลิตลง 50 เปอร์เซ็นต์ หลังจากนั้นอีก 9 สัปดาห์ เนื่องจากเงื่อนไขการเว้นระยะห่างทางสังคม โดยการคิดค้นแนวทางการผลิตใหม่ ทำให้เบนท์ลีย์สามารถตอบโจทย์ความเปลี่ยนแปลงนี้ ในขณะที่ยังคงยึดมั่นในเงื่อนไขการเว้นระยะห่างทางสังคมได้เป็นอย่างดี
สหรัฐอเมริกายังคงครองแชมป์ในการทำยอดขายสูงที่สุด ตามมาด้วยสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งปีนี้ทำสัดส่วนยอดขายสูงขึ้นกว่า 48 เปอร์เซ็นต์
เอเดรียน ฮอล์มาร์ค ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เบนท์ลีย์ มอเตอร์ส กล่าวถึงยอดขายโดยรวมของทั่วโลกว่า :
“ถึงแม้ว่าเราจะคาดหวังยอดขายที่สูงกว่าก่อนวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 แต่เมื่อพิจารณาถึงข้อจำกัดที่เกิดขึ้นทั่วโลก การประสบความสำเร็จในด้านยอดขายจึงเป็นสิ่งที่วัดศักยภาพของเราได้อย่างดี เรามองไปข้างหน้าเสมอ เรายังคงก้าวเดินต่อไปอย่างระมัดระวังตราบใดที่สถานการณ์ยังไม่น่าไว้วางใจ สิ่งหนึ่งที่เป็นพันธสัญญาของเราคือ ก้าวแรกสู่การเปิดตัวรถเอสยูวี เบนเทก้า ไฮบริด ซึ่งเป็น 1 ใน 9 โมเดลที่เราจะเปิดตัวภายในปีนี้ตามกลยุทธ์ของเราที่ใช้ชื่อว่า “Beyond100” และเป็นการปูทางเข้าสู่การเป็นองค์กรผลิตยานยนต์รักษ์โลกเต็มรูปแบบภายในปี 2573”
ปัจจัยที่ทำให้เบนท์ลีย์ มอเตอร์สประสบความสำเร็จคือการเปิดตัวของโมเดลรถยนต์รุ่นใหม่ๆ ผนวกกับการเผยโฉมโมเดลรถยนต์รุ่นยอดนิยมทั่วโลก อย่าง “ดิ ออล์ นิว ฟลายอิ้ง สเปอร์” ที่เปิดตัว ซึ่งได้สร้างความฮือฮาและปรากฏการณ์ใหม่ให้กับทั้งลูกค้าและสื่อมวลชนทั่วโลกมาแล้ว
มากไปกว่านั้น เพื่อตอกย้ำกระแสความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในเดือนตุลาคมปีเดียวกัน ทางเบนท์ลีย์ มอเตอร์สก็ได้มีการเปิดตัว “ดิ ออล์นิว ฟลายอิ้ง สเปอร์” พร้อมขุมพลังเครื่องยนต์ V8 ตอกย้ำเรื่องสมรรถนะที่ไม่เป็นสองรองใคร
ปิดยอดขายส่งท้ายปีด้วยโมเดลรุ่นยอดนิยมตลอดการอย่าง “เบนท์ลีย์ คอนติเนนทัล จีที” ด้วยสัดส่วนยอดขาย 24 เปอร์เซ็นต์ และ ตัวเปิดประทุนอย่าง “เบนท์ลีย์ คอนติเนนทัล จีที คอนเวอร์ทิเบิล” ด้วยสัดส่วนยอดขายที่ 15 เปอร์เซ็นต์ คว้าส่วนแบ่งยอดขายรวมที่ 39 เปอร์เซ็นต์ ครองตำแหน่งรุ่นที่ขายดีที่สุด และถึงแม้ว่าการหยุดสายการผลิตของรุ่นก่อนหน้าและความล่าช้าในการเปิดตลาดของ “เดอะ นิว เบนเทก้า” อันเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อัครยนตรกรรมเอสยูวีที่เต็มเปี่ยมไปด้วยอรรถประโยชน์ก็ยังคงเป็นอีกหนึ่งโมเดลที่ทำยอดขายได้สูงกับสัดส่วนที่ 37 เปอร์เซ็นต์
สหรัฐอเมริกายังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องด้วยยอดส่งรถ 3,035 คัน เพิ่มขึ้น 4 เปอร์เซ็นต์จากปี 2562 ที่ 2,913 คัน ครองแชมป์อันหนึ่งในตลาดรถยนต์เบนท์ลีย์ ซึ่งยอดขายมาจากการเปิดตัวของ “ดิ ออล์นิว ฟลายอิ้ง สเปอร์” และโมเดลสุดยอดแกรนด์ ทัวเรอร์อย่าง “เดอะ คอนติเนนทัล จีที” และ “เดอะ คอนติเนนทัล จีที คอนเวอร์ทิเบิล”
ส่วนตลาดที่มีอัตราการเติบโตมากที่สุดคงต้องยกให้ สาธารณรัฐประชาชนจีน โดยมียอดขายโตขึ้นกว่า 48 เปอร์เซ็นต์ ดันยอดส่งรถที่ 2,880 คัน เมื่อเทียบกับเมื่อปีที่ผ่านมากับยอด 1,940 คัน โดยการเปิดตัวของ “ดิ ออล์ นิว ฟลายอิ้ง สเปอร์” ได้รับกระแสตอบรับเป็นอย่างดีจากตลาดรถยนต์ซีดานสี่ประตู และอีกหนึ่งที่สุดรถเอสยูวีเบนเทก้าก็ยังคงความแข็งแกร่งในเรื่องยอดขายอยู่ไม่น้อย
ภูมิภาคยุโรปส่งท้ายปีด้วยยอดส่งรถที่ 2,193 คัน ลดลงจากปี 2562 ซึ่งมียอดขายอยู่ที่ 2,670 คัน ลดลง 18 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับปีก่อน ซึ่งมีสาเหตุมาจากความล่าช้าของการเปิดตลาดของ “ดิ ออล์ นิว เบนเทก้า”
ส่วนของตลาดบ้านเกิดเบนท์ลีย์ในสหราชอาณาจักร ยังคงความแข็งแกร่งอย่างต่อเนื่องด้วยยอดส่งรถที่ 1,160 คัน โดยในปีก่อนมีสัดส่วนยอดขายลดลงกว่า 22 เปอร์เซ็นต์ ภูมิภาคตะวันออกกลางส่งรถที่ 735 คัน ในปี 2563 โดยเทียบกับปีก่อนที่ 852 คัน ปิดท้ายด้วยภูมิภาคเอเชีย แปซิฟิก ซึ่งมียอดขายเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 6 เปอร์เซ็นต์กับการส่งรถ 1,203 คัน เทียบกับปี 2562 มีจำนวนส่งรถที่ 1,139 คัน
ภูมิภาค | 2563 (ยอดขาย) | 2562 (ยอดขาย) | 2563 (เปอร์เซ็นต์ยอดขายทั้งหมด) |
สหรัฐอเมริกา | 3,035 (+4%) | 2,913 | 27% |
สาธารณรัฐประชาชนจีน | 2,880 (+48%) | 1,940 | 26% |
ยุโรป | 2,193 (-18%) | 2,670 | 20% |
เอเซีย แปซิฟิก | 1,203 (+6%) | 1,139 | 11% |
สหราชอาณาจักร | 1,160 (-22%) | 1,492 | 10% |
ตะวันออกกลาง | 735 (-14%) | 852 | 6% |
รวม | 11,206 (+2%) | 11,006 | 100% |
*เบนท์ลีย์มีตัวแทนจำหน่ายกว่า 237 แห่ง ใน 67 ประเทศทั่วโลก