หลังจากความร่วมมือกันเกือบ 2 ทศวรรษของไบร์ทลิ่ง (Breitling) แบรนด์นาฬิกาหรูระดับโลกและเบนท์ลีย์ (Bentley) แบรนด์ผู้ผลิตอัครยนตรกรรมหรูสัญชาติอังกฤษทั้ง 2 แบรนด์หรูระดับโลกกลับมาร่วมมือกันอีกครั้งในการเปิดตัวนาฬิกาข้อมือสุดหรูรุ่น “Premier B21 Chronograph Tourbillon 42 Bentley Limited Edition” ซึ่งผลิตจำนวนจำกัดเพียง 25 เรือนในโลก เท่านั้น
ณ วันนี้ นิยามใหม่ของนาฬิกาข้อมือสุดหรูแบรนด์ไบร์ทลิ่งที่ถือกำเนิดขึ้นในช่วงปีพ.ศ. 2483 ยังคงไว้ซึ่งเอกลักษณ์ด้วยการผลิตนาฬิกาข้อมือสุดหรูในแบบลิมิเต็ดเอดิชั่นรุ่น “Premier B21 Chronograph Tourbillon 42 Bentley Limited Edition” กับจำนวนจำกัดเพียง 25 เรือนในโลก ตัวเรือนขนาด 42 มิลลิเมตรผลิตจากทองคำ Red Glod 18 K ปุ่มกดจับเวลารูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าสายหนังจระเข้สีน้ำตาลทองและฝาหลังประกอบจากกระจกใสแซฟไฟร์ (Sapphire) เผยให้เห็นถึงความงดงามของการเคลื่อนไหวของจานเหวี่ยงทองคำน้ำหนัก 22 กะรัต
โดยจุดเด่นของนาฬิกาข้อมือสุดหรูเรือนนี้คือระบบและหน้าต่างกรงแบบทูร์บิญอง (Tourbillon Caliber & Cage) ซึ่งถือเป็นระบบกลไกนาฬิกาชั้นสูงเผยให้เห็นบนหน้าปัดสีเขียวที่โดดเด่นทำให้หวนระลึกถึงสีเขียวที่ใช้กับรถแข่งในกีฬามอเตอร์ สปอร์ต (British Racing Green) ซึ่งได้กลายเป็นสีประจำสำหรับความร่วมมือระหว่างไบร์ทลิ่งและเบนท์ลีย์
การันตีด้วยกลไกจักรกลแบบ Manufacture Caliber B21 และการผ่านการทดสอบความเที่ยงตรงจากสถาบันตรวจสอบความเที่ยงตรงของนาฬิกาแห่งสวิสต์เซอร์แลนด์ (Controle Offficial Suisse Des Chronometres) หรือตัวย่อ COSC ตัวนาฬิกาจะสามารถสำรองเวลาใช้งานได้นานถึง 55 ชั่วโมงและสามารถกันน้ำได้ที่ระดับความลึกกว่า 100 เมตร
วิลลี่ไบร์ทลิ่ง (Willy Breitling) หลานชายของผู้ก่อตั้งแบรนด์ไบร์ทลิ่งลีอองไบร์ทลิ่ง (Léon Breitling) คือผู้ที่มีความหลงใหลในการขับรถยนต์เบนท์ลีย์เขาจดสิทธิบัตรกลไกการจับเวลาด้วยปุ่มกดที่แยกออกจากกันอย่างอิสระที่ตำแหน่ง 2 นาฬิกา และ 4 นาฬิกา ในปี พ.ศ. 2477 นอกจากการเป็นคนที่หลงใหลในเทคโนโลยีและชัดเจนของวิลลี่ ไบร์ทลิ่งแล้ว เขายังเป็นคนที่เข้าใจความต้องการความหรูหรา สง่างาม และเสน่ห์ของผู้ที่หลงใหลในนาฬิกา ด้วยเหตุผลนี้ เขาจึงได้ออกแบบนาฬิกาข้อมือเป็นครั้งแรกในช่วงปี พ.ศ. 2483 โดยถือเป็นจุดสำคัญในการเชื่อมโยงการออกแบบนาฬิกาเพื่อวัตถุประสงค์ด้านการใช้งานสู่การออกแบบเพื่อให้เข้ากับยุคสมัย
เฉกเช่นเดียวกับนาฬิกาทุกรุ่นของไบร์ทลิ่งในทุกวันนี้ที่สะท้อนรสนิยมของผู้สวมใส่และเช่นเดียวกับความรู้สึกของลูกค้าเบนท์ลีย์มอเตอร์สที่ถูกสะท้อนผ่านอัครยนตรกรรมเบนท์ลีย์ของเขานาฬิกาข้อมือสุดเอ็กซ์คลูซีฟเรือนนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงประวัติศาสตร์อันยาวนานและคุณค่าในสมัยนิยมของทั้งสองแบรนด์หรูภายใต้การออกแบบที่มีสไตล์ได้เป็นอย่างดี
เอเดรียนฮอลล์มาร์กประธานบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารเบนท์ลีย์มอเตอร์สกล่าว “สุดยอดนาฬิกาข้อมือเรือนนี้ได้รวบรวมเอาพันธสัญญาของเราที่จะร่วมบุกเบิกจิตวิญญาณงานฝีมือโดยช่างฝีมือผู้ชำนาญงานและความเป็นเลิศทางด้านเทคโนโลยี”
จอร์จสเคิร์นประธานเจ้าหน้าบริหารไบร์ทลิ่งกล่าวเสริม “เรามีความภาคภูมิใจในอัตลักษณ์ที่สง่างามของความเป็นเลิศในด้านคุณภาพศักยภาพและการออกแบบที่เป็นคุณค่าในตัวแบรนด์ที่เรามีร่วมกัน”
ในปีพ.ศ. 2545 เบนท์ลีย์มอเตอร์สได้ร่วมกับไบร์ทลิ่งออกแบบนาฬิกาสำหรับติดตั้งภายในห้องโดยสารของเดอะคอนติเนนทัลจีที (The Continental GT) และนับแต่นั้นมาทั้งสองแบรนด์ก็ได้สานความร่วมมือโดยการสร้างสรรค์จิตวิญญาณของความหรูหราที่ไม่มีจุดสิ้นสุดและคุณภาพที่ไร้ที่ติกลายมาเป็นที่สุดของนวัตกรรมการบอกเวลาที่สดุดีวิลลี่ไบร์ทลิ่งผู้ที่ทำให้นาฬิกาของเขาผลิกหน้าประวัติศาสตร์การบอกเวลาและดับเบิ้ลยูโอเบนท์ลีย์ผู้บุกเบิกสุดยอดนวัตกรรมแห่งอุตสาหกรรมยานยนต์
ค้นหาข้อมูลนาฬิกาเพิ่มเติมได้จากเว็บไซต์: https://shop.bentleymotors.com/blogs/partnerships/breitling
ข่าวที่น่าสนใจอื่นๆเกี่ยวกับ เบนท์ลีย์ คลิกที่นี่
youtube