บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด จัดกิจกรรมเอ็กซ์คลูซีฟทริป ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Life’s a Journey” ชวนสื่อมวลชนออกเดินทางท่องเที่ยวและร่วมทำกิจกรรม ในเส้นทางกรุงเทพฯ–อยุธยา พร้อมร่วมทดสอบรถยนต์สมรรถนะสูงเมอร์เซเดส-เบนซ์ในกลุ่ม EQ Power อย่าง Mercedes-Benz C 300 e, Mercedes-Benz E 300 e, Mercedes-Benz GLC 300 e, Mercedes-Benz GLC 300 e Coupé และ Mercedes-Benz S 560 e
มร. บีเยิร์น กุซเทรา รองประธานบริหาร ฝ่ายขายและการตลาด บริษัท เมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “รถยนต์ในกลุ่ม EQ Power นั้นถือเป็นรถยนต์ Plug-in Hybrid เจเนอเรชันที่ 3 โดยมีการพัฒนาขึ้นในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของอัตราเร่ง, ความประหยัด, ระยะทางการใช้งานใน E-MODE รวมไปถึงดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ พร้อมด้วยระบบสั่งการด้วยเสียง “Hey Mercedes” อันเป็นไฮไลท์สำคัญของระบบมัลติมีเดีย MBUX หรือ Mercedes-Benz User Experience ที่พร้อมจะตอบสนองการใช้ชีวิตของคุณได้อย่างรวดเร็วและลงตัวในทุกๆ วัน
ทั้งนี้รถยนต์ในกลุ่ม EQ Power ยังเพียบพร้อมไปด้วยระบบความปลอดภัยล่าสุดและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกของเมอร์เซเดส-เบนซ์ ที่มีมาให้อย่างครบครัน โดยมีกลุ่มเป้าหมายหลักคือกลุ่มหนุ่มสาวและครอบครัวยุคใหม่ที่ชื่นชอบความสะดวกสบาย ความสปอร์ต และท้าทายในทุกการขับขี่”
สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ ได้ถูกจัดขึ้นในรูปแบบของ One Day Trip ที่ทางเมอร์เซเดส-เบนซ์ (ประเทศไทย) ได้เชิญสื่อมวลชนทุกท่านมาร่วมสัมผัสประสบการณ์พร้อมทดสอบสมรรถนะของรถยนต์ในกลุ่ม EQ Power ที่สามารถตอบโจทย์ของคนรุ่นใหม่ได้เป็นอย่างดี โดยทริปนี้เริ่มต้นเดินทางในเส้นทางกรุงเทพฯ–อยุธยา ซึ่งสำหรับความพิเศษของการทดสอบรถยนต์ในครั้งนี้ ทางบริษัทฯ ได้จัดเตรียมรถยนต์ Mercedes-Benz C 300 e AMG Sport รุ่นใหม่ล่าสุดที่เพิ่งได้มีการเปิดตัวไปนั้น มาให้ทุกท่านได้ร่วมทดสอบกัน พร้อมลิ้มลองความอร่อยกับเมนูอาหารขึ้นชื่อจากร้าน The Summer House จากนั้นสัมผัสบรรยากาศและมนต์เสน่ห์เมืองวัฒนธรรมเก่าแก่ของอยุธยา
นอกจากนี้แนวคิด Social Distancing หรือ เว้นระยะห่างทางสังคม ได้ถูกนำมาใช้ในการทดสอบรถครั้งนี้โดยบริษัทฯ ได้จัดเตรียมรถยนต์สำหรับสื่อมวลชน 1คัน ต่อ 1สื่อ หน้ากาก Face Shield และสเปรย์แอลกอฮอล์ พร้อมกันนี้ยังได้ร่วมทำกิจกรรมภายใต้ #UnseenWithEQPower ในเส้นทางกรุงเทพฯ-อยุธยา ที่สื่อมวลชนสามารถนำเสนอมิติต่างๆ ของรถในแต่ละรุ่น ที่สะท้อนความโฉบเฉี่ยว ล้ำสมัย และความสนุกสนานของคนรุ่นใหม่ ผ่านทางภาพถ่ายในการเดินทางครั้งนี้อีกด้วย
แต่พระเอกของเราก็คือ Mercedes-Benz S 560 e เป็นระบบปลั๊กอินไฮบริดเจเนอเรชั่นที่ 3 ทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องยนต์เบนซิน V6 ความจุ 3.0 ลิตร Twin Turbocharging และมอเตอร์ไฟฟ้ากำลังสูง ทำงาร่วมกับเกียร์อัตโนมัติ 9 จังหวะแบบใหม่ (9G-TRONIC) ที่ช่วยให้ประหยัดเชื้อเพลิงลงกว่าเดิมถึง 6.5% ให้กำลังรวมสูงสุดถึง 476 แรงม้า ทำให้การขับขี่ในครั้งทั้งหนุกและเร้าใจสุดๆ
ภายในห้องโดยสารยังมอบความสะดวกสบาย ด้วยระบบ ENERGIZING Comfort Control เทคโนโลยีที่ช่วยให้คุณผ่อนคลายร่างกายและอารมณ์ในระหว่างการเดินทางเพียงแค่การ ‘กดปุ่ม’ เพื่อควบคุมการทำงานของระบบต่างๆ เข้าไว้ด้วยกัน เช่น ระบบปรับอากาศ ระบบฉีดน้ำหอม ระบบฟอกอากาศ ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร (Premium Ambient Light) เสียงดนตรี ฟังก์ชันระบายอากาศและอุ่นที่นั่ง พร้อมระบบนวดสำหรับเบาะคู่หลัง โดยผู้โดยสารสามารถเลือกโปรแกรมผ่อนคลายได้ 4 แบบ คือ Refresh, Vitality, Warmth และ Joy
ระหว่างการเดินมั่นด้วยเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัยอย่างครบครัน อาทิ
ระบบ Active Distance Assist DISTRONIC
- ระบบช่วยรักษาระยะห่างจากรถที่อยู่ด้านหน้า ทำงานโดยใช้สัญญาณเรดาร์ที่ติดตั้งบริเวณกระจังหน้า และกล้อง STEREO CAMERA
ระบบ Active Blind Spot Assist
- เทคโนโลยีที่ช่วยลดความเสี่ยงจากการชนกับรถยนต์หรือจักรยานยนต์ที่อยู่ในจุดอับสายตาในขณะที่กำลังจะเปลี่ยนช่องจราจร
ระบบ Active Lane Keeping Assist
- ระบบที่ช่วยลดความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่มีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนช่องจราจรโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งระบบนี้จะทำงานโดยการใช้สัญญาณเรดาร์ ในการตรวจจับช่องจราจรและรถยนต์ที่อยู่ในช่องจราจรอื่น หากระบบตรวจพบความเสี่ยงที่จะชนกับรถยนต์คันอื่น ระบบจะช่วยดึงรถกลับเข้าสู่ช่องจราจรเดิมโดยอัตโนมัติด้วยการเบรกล้อฝั่งที่อยู่ตรงข้ามกับรถยนต์ที่ตรวจจับได้
ระบบป้องกันก่อนเกิดเหตุ PRE-SAFE® PLUS
- ระบบนี้ทำงานโดยใช้สัญญาณเรดาร์ตรวจจับรถที่วิ่งอยู่ด้านหลัง หากเรดาร์ตรวจพบรถยนต์จากด้านหลังที่วิ่งเข้ามาด้วยความเร็วซึ่งเสี่ยงที่จะทำให้เกิดอุบัติเหตุ ไฟกะพริบฉุกเฉินจะกะพริบด้วยความถี่ที่มากกว่าปกติเพื่อเตือนผู้ขับขี่รถคันหลัง หลังจากนั้นระบบจะรัดเข็มขัดให้กระชับขึ้น ระบบเบรกจะล็อคล้อทั้งสี่ไว้ให้อยู่กับที่ พร้อมปรับพนักพิงศีรษะให้ชิดกับศีรษะ เพื่อช่วยลดความเสี่ยงของอาการบาดเจ็บบริเวณต้นคอ หากมีการชนท้ายเกิดขึ้น
ระบบ Active Braking Assist และฟังก์ชัน Cross-Traffic
- เทคโนโลยีที่ช่วยหลีกเลี่ยงการชนกับรถยนต์คันอื่น หรือคนเดินถนนในบริเวณทางแยก โดยสัญญาณเรดาร์ที่ติดอยู่บริเวณกันชนด้านหน้า และกล้อง MPC โดยส่งเสียงเตือนคุณให้เบรก หากคุณตอบสนอง ระบบจะช่วยเพิ่มกำลังเบรกไปจนเต็มประสิทธิภาพ แต่หากไม่มีการตอบสนอง ระบบจะช่วยเบรกอัตโนมัติตามแต่ละสถานการณ์ นอกจากนี้ในกรณีที่ระบบไม่สามารถหลบหลีกวัตถุด้านหน้าได้ทัน ระบบจะช่วยลดความเร็วลง เพื่อช่วยลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ
ระบบ Evasive Steering Assist ระบบช่วยหลบหลีกการชนจากด้านหน้า
- ระบบจะช่วยตรวจจับคนและสิ่งของที่จะก่อให้เกิดอันตราย โดยระบบจะเตือนให้คุณตอบสนองและหักหลบสิ่งกีดขวางด้วยตนเองเท่านั้น
ระบบ Active Emergency Stop Assist
- ในกรณีที่ผู้ขับขี่ไม่มีการตอบสนองต่อการขับขี่เป็นเวลานาน เช่น คนขับหลับในหรือหมดสติ และระบบตรวจจับได้ว่าไม่มีการเคลื่อนไหวของพวงมาลัยเลย ระบบจะส่งสัญญาณเตือนเพื่อให้ผู้ขับขี่กลับมาประคองพวงมาลัยรถ แต่ถ้ายังไม่มีการตอบสนองจากผู้ขับขี่ ระบบจะค่อยๆ หยุดรถอัตโนมัติในช่องจราจรนั้น พร้อมกับเปิดระบบไฟกระพริบฉุกเฉิน
ดีไซน์ภายนอก กระจังหน้าแบบ 3 ก้าน พร้อมกับไฟหน้าแบบ MULTIBEAM LED พร้อมฟังก์ชัน ULTRA RANGE Highbeam ที่สามารถปรับความสว่างและความยาวของลำแสงไฟหน้าให้ส่องได้ไกลกว่า 650 เมตรโดยอัตโนมัติ ล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตจาก AMG แบบ 10-spoke ขนาด 20 นิ้ว สีไทเทเนี่ยมเกรย์
The S 560 e AMG Premium รุ่นประกอบในประเทศ ราคา 6,999,000 บาท