Home brandmini มินิ ประเทศไทย ชวนสัมผัสค่ำคืนแห่งแสงสีกับ มินิ เอซแมน เอสอี ใหม่ ด้วยประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกแบบไม่ซ้ำใคร ในงาน MINI Aceman Press Night Drive

มินิ ประเทศไทย ชวนสัมผัสค่ำคืนแห่งแสงสีกับ มินิ เอซแมน เอสอี ใหม่ ด้วยประสบการณ์การขับขี่ที่สนุกแบบไม่ซ้ำใคร ในงาน MINI Aceman Press Night Drive

by wa wa ztv
38 views

มินิ ประเทศไทย พาสื่อมวลชนไปสัมผัสสีสันยามค่ำคืนของกรุงเทพฯ ในแบบที่ไม่เหมือนใคร กับ มินิ เอซแมน เอสอี ครอสโอเวอร์พลังงานไฟฟ้าที่เปี่ยมด้วยดีเอ็นเอของความสนุกในสไตล์มินิ ให้ทุกท่านได้ดื่มด่ำกับบรรยากาศในกรุงเทพฯ ยามค่ำคืน ที่ผสมผสานกับแสงสีและนวัตกรรมดิจิทัลจากมินิได้อย่างลงตัว

มินิ เอซแมน เอสอี เป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่เปี่ยมด้วยความคล่องตัวสำหรับการขับขี่ในเมือง ด้วยขนาดตัวรถที่กะทัดรัด ความยาว 4.07 เมตร แต่ยังมอบพื้นที่ใช้สอยมากมายสำหรับทุกสถานการณ์ในแบบ 5 ที่นั่ง พร้อมความจุสัมภาระสูงสุดถึง 1,005 ลิตรเมื่อพับเบาะแถวหลังลง ภายนอกของมินิ เอซแมน เอสอี แตกต่างจากมินิรุ่นอื่น ๆ ด้วยเส้นสายบริเวณซุ้มล้อที่ไม่เหมือนใคร เข้าคู่กับล้อขนาด 18 นิ้วในลาย Night Flash แบบสลับสี ส่วนชุดไฟหน้าระบบ LED และไฟท้าย ทำงานคู่กับระบบ MINI Digital Key Plus เพื่อต้อนรับผู้ขับขี่ทุกครั้งที่เตรียมออกเดินทางด้วยฟังก์ชัน Welcome Projection ที่จะเปิดไฟหน้า-ไฟท้ายและปลดล็อกรถโดยอัตโนมัติเมื่อเจ้าของรถเข้ามาใกล้ตัวรถ ขณะที่เบาะหน้าของผู้ขับขี่มาในสไตล์สปอร์ตสุดโฉบเฉี่ยวแบบ John Cooper Works โดยนอกจากจะรองรับการปรับตำแหน่งและองศาด้วยระบบไฟฟ้าเหมือนกับฝั่งผู้โดยสารแล้ว ยังมีระบบนวดที่สามารถช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อได้ในขณะเดินทางอีกด้วย

ภายในห้องโดยสาร เสริมบรรยากาศบนทุกเส้นทางด้วยหลังคากระจก Panorama Glass Roof ที่รับแสงจากภายนอกในเวลากลางวันมาเสริมให้พื้นที่ภายในดูกว้างขวางยิ่งขึ้นไปอีก ทั้งยังเปิดให้ทุกคนได้สัมผัสกับบรรยากาศและสีสันจากภายนอกได้อย่างเต็มตาในยามค่ำคืน เพิ่มความสนุกด้วยแถบไฟ Ambient Light ที่ล้อมรอบ Panorama Glass Roof ส่วนหัวใจหลักของห้องโดยสารมินิในเจเนอเรชั่นนี้ อยู่ที่หน้าจอ OLED ทรงกลมบนคอนโซลหน้าที่ทั้งบางเฉียบและใหญ่เต็มตาด้วยความกว้าง 240 มิลลิเมตร ทำหน้าที่เป็นทั้งจอแสดงผลข้อมูลสำหรับผู้ขับขี่และแผงควบคุมระบบต่าง ๆ

หน้าจอทรงกลมนี้ยังเป็นศูนย์กลางของฟังก์ชัน MINI Experience Modes ที่สามารถปรับแต่งบรรยากาศภายในรถให้ตรงกับคาแรกเตอร์ของเจ้าของรถแต่ละคน หรือจะเลือกคุมโทนตามโอกาสและอารมณ์ของการเดินทางแต่ละครั้งก็ยังได้ ด้วย 8 โหมดสุดพิเศษที่ไม่ได้ปรับเพียงแค่โทนสีและข้อมูลที่แสดงผลบนหน้าจอเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสีสันจากระบบไฟ Ambient Lighting ในห้องโดยสาร ซึ่งส่องสว่างออกมาจากทั้งบริเวณใต้แผงคอนโซลหน้า กระจกข้าง และกรอบหลังคา Panorama Glass Roof ขณะที่เสียงเครื่องยนต์แบบจำลองก็จะปรับเปลี่ยนไปตามแต่ละโหมดเช่นกัน ด้วยโทนเสียงที่กระหึ่มสมจริงจากชุดเครื่องเสียงระบบเซอร์ราวด์โดย Harman Kardon

และด้วย MINI Experience Modes ผู้ขับขี่ยังสามารถเลือกโหมด Go-Kart เพื่อตั้งค่าให้พวงมาลัยและคันเร่งตอบสนองฉับไวมากขึ้นเป็นพิเศษ พร้อมโลดแล่นไปกับการขับขี่ที่สปอร์ตและคล่องตัวกว่าเดิม หรือออกผจญภัยไปกับโหมด Trail ที่มีเฉพาะในรุ่นคันทรีแมนและเอซแมนเท่านั้น โดยในโหมดนี้ จอ OLED กลมจะแสดงข้อมูลเส้นทางในสไตล์เข็มทิศพร้อมด้วยองศาความชันของถนนและโทนสีอบอุ่นแบบธรรมชาติ ส่วนโหมด Personal เพิ่มทางเลือกในการปรับแต่งบรรยากาศในห้องโดยสารให้ตรงใจมากยิ่งขึ้น โดยเปิดให้อัพโหลดภาพอะไรก็ได้มาใช้เป็นพื้นหลังหน้าจอ พร้อมปรับสีระบบไฟภายในห้องโดยสารให้ตรงกับโทนสีของภาพนั้นๆ โดยอัตโนมัติ นอกจากนี้ มินิ เอซแมน เอสอี และมินิรุ่นใหม่ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ MINI Operating System 9 ยังมีอีกหนึ่งโหมดลับสำหรับสายปาร์ตี้ เพียงเปิดเพลงผ่านหน้าจอ OLED แล้วปาดนิ้วมือ 4 นิ้วบนหน้าจอ ก็สามารถเข้าสู่โหมด DJ ให้สแครชแผ่นกันได้แบบไม่ต้องมีอุปกรณ์เสริม

ฟีเจอร์ทั้งหมดนี้เป็นส่วนหนึ่งของนวัตกรรมดิจิทัลมากมายที่ยกระดับประสบการณ์การขับขี่ของ มินิ เอซแมน เอสอี ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นบริการ MINI Connected ครบชุด รองรับการติดตั้งแอปพลิเคชันจาก MINI Connected Store เพื่อเพิ่มออปชั่นและคุณสมบัติใหม่ๆ แท่นชาร์จไร้สายสำหรับสมาร์ทโฟน และระบบ MINI head-up display ที่แสดงข้อมูลสำคัญให้ผู้ขับขี่เห็นโดยไม่ต้องละสายตาจากถนนข้างหน้า ส่วนระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ Driving Assistant Plus เสริมทั้งความสะดวกและปลอดภัยด้วยตัวช่วยคุมรถให้อยู่ในเลน พร้อม Adaptive Cruise Control ที่ติดตั้งมาให้เป็นฟังก์ชันมาตรฐาน ช่วยควบคุมความเร็วและรักษาระยะห่างจากรถคันหน้าแบบอัตโนมัติ และยังสามารถปรับความเร็วให้รับมือกับทางโค้งและทางชันอย่างมั่นใจและปลอดภัยยิ่งขึ้นอีกด้วย

ในด้านสมรรถนะ มินิ เอซแมน เอสอี ขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าที่ให้พละกำลังสูงสุด 160 กิโลวัตต์ / 218 แรงม้า พร้อมแรงบิดสูงสุด 330 นิวตันเมตร มอบอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมงที่ 7.1 วินาที และทำความเร็วสูงสุดได้ 170 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พลังงานจากแบตเตอรี่ขนาด 54.2 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ให้ระยะทางขับขี่สูงสุดตามมาตรฐาน WLTP ที่ 405 กิโลเมตรต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง โดยสามารถชาร์จ จาก 0-100% ด้วยไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่กำลังไฟ 11 กิโลวัตต์ ในเวลา 5 ชั่วโมง 45 นาที และชาร์จความเร็วสูงด้วยไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ที่กำลังไฟ 95 กิโลวัตต์ จาก 10-80% ในเวลาเพียง 31 นาที

ผู้สนใจสามารถเป็นเจ้าของ มินิ เอซแมน เอสอี ได้แล้ววันนี้ ในราคาเริ่มต้นที่ 1,999,000 บาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและแพ็กเกจบำรุงรักษา MSI Standard คุ้มครองการบำรุงรักษา 4 ปี ไม่จำกัดระยะทาง) โดยมีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีแดง Rebel Red, สีน้ำเงิน Indigo Blue, สีน้ำเงิน Blazing Blue, สีขาว Nanuq White สีเทา Melting Silver, และสีเขียว Ocean Wave Green

ข่าวที่น่าสนใจอื่นๆเกี่ยวกับ มินิ คลิกที่นี่

Youtube
Home
Please follow and like us:

Related Articles

Verified by MonsterInsights