Home News update โอโมดา แอนด์ เจคู ทดสอบ OMODA C5 EV เวอร์ชันจำหน่ายจริง บนถนนจริงทั่วไทย จากใต้จรดเหนือ

โอโมดา แอนด์ เจคู ทดสอบ OMODA C5 EV เวอร์ชันจำหน่ายจริง บนถนนจริงทั่วไทย จากใต้จรดเหนือ

by wa wa ztv
239 views

เตรียมตัวให้พร้อม! โอโมดา แอนด์ เจคู (ประเทศไทย) ภายใต้ Chery Automobile บริษัทด้านเทคโนโลยียานยนต์ชั้นนำระดับโลกสัญชาติจีน เตรียมเปิดให้จองและส่งมอบ OMODA C5 EV รถยนต์ SUV ขับเคลื่อนไฟฟ้า 100% เวอร์ชันจำหน่ายจริงในประเทศไทย คันแรกในไตรมาส 3 ของปีนี้  หลังจากที่ได้เดินหน้าทดสอบรถยนต์ บนเส้นทางสุดหฤโหดจากใต้จรดเหนือ “หาดใหญ่ – กรุงเทพฯ” และ “กรุงเทพฯ – เชียงราย” ทุกสภาพท้องถนนจริง ทั้งถนนในเมือง ถนนลูกรัง ถนนเรียบชายหาด เส้นทางลาดชันขึ้นภูเขา และการขับขี่ลุยน้ำ โดยได้คู่รักคนดัง “ปั๊บ พัฒน์ชัย ภักดีสู่สุข” หรือ “ปั๊บ โปเตโต้” และ “เตย สุวพิชญ์ ไตรพรวรกิจ” ร่วมกับทีมจาก OMODA & JAECOO จับพวงมาลัย พร้อมด้วยทีมผู้แทนจำหน่ายทั่วทุกภูมิภาคร่วมต้อนรับและทดสอบสมรรถนะของรถรอบด้านเพื่อเป็นการยืนยันว่าพร้อมต้อนรับผู้ขับขี่ทุกคนทั่วไทย ทั้งเรื่องของความสามารถของรถไฟฟ้า ขุมพลัง ความปลอดภัยและความสะดวกสบาย ที่ตอบโจทบ์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่อย่างแท้จริง

ทะลุความท้าทายของสมรรถนะพลังงานสะอาด

ตลอดการเดินทางกว่า 2,000 กิโลเมตร จากใต้จรดเหนือของรถยนต์ OMODA C5 EV เหล่านักเดินทางได้ทะลายกำแพงการขับขี่และท้าทายสมรรถนะการขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าในระยะทางไกล ด้วยจุดเริ่มต้นจากหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา เดินทางสู่หมู่บ้านคีรีวง จังหวัดนครศรีธรรมราช พักดื่มด่ำธรรมชาติก่อนเดินทางผ่านสุราษฎร์ธานี ประจวบคีรีขันธ์ มุ่งสู่กรุงเทพมหานคร ด้วยระยะเวลาในการชาร์จกระแสตรง DC จาก 30% เป็น 80% ในเวลาเพียง 28 นาที ซึ่งการชาร์จหนึ่งครั้งสามารถขับขี่จากหาดใหญ่ถึงนครศรีธรรมราชได้แบบไร้กังวล พร้อมกับความสะดวกสบายในการชาร์จไฟบริเวณด้านหน้าของรถที่ทำให้การชาร์จไฟของนักเดินทางไม่ยุ่งยากในการลากสายอีกต่อไป

นอกจากนี้ ยังได้สัมผัสระบบความปลอดภัยจาก Euro-NCAP จัดเต็มด้วย 14 เทคโนโลยีความปลอดภัย อาทิ ระบบเตือนการออกนอกเลน (LDW) ระบบป้องกันการออกนอกเลน (LDP) ระบบตรวจสอบจุดอับสายตา (BSD) ระบบเตือนจุดอับสายตาขณะถอยหลัง (RCTA) ระบบช่วยเบรกขณะถอยหลัง (RCTB) กับ 3 ฟังก์ชันระบบช่วยเหลือการขับขี่เพิ่มสะดวกสบายมากขึ้น ทั้งระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (ACC) ระบบรักษารถให้อยู่กลางเลน (ICA) และระบบช่วยเหลือการขับขี่ในสภาพความเร็วต่ำ (TJA) พร้อมด้วยระบบตรวจจับความเหนื่อยล้าของผู้ขับขี่ (DMS) ทำให้การขับขี่เส้นทางถนนสายเอเชียจากใต้ขึ้นกรุงเทพเป็นไปด้วยความสะดวกสบาย และปลอดภัย

สัมผัสไลฟ์สไตล์ “LOHAS” แห่งอนาคต

นอกจากสมรรถนะและเทคโนโลยียนตรกรรมแห่งอนาคตของรถยนต์ OMODA C5 EV แล้ว ในการทดลองขับขี่บนถนนจริงครั้งนี้ ยังพาไปสัมผัสวิถีชีวิตของชาว LOHAS แบบคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจการมีชีวิตที่ดีควบคู่ไปกับการมีสิ่งแวดล้อมที่ยั่งยืน ตลอดเส้นทางกรุงเทพถึงเชียงราย แวะไปดูสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เดินทางข้ามสะพานเดชาติวงศ์ ประตูสู่ภาคเหนือ แวะไหว้พระพุทธชินราช วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร (วัดใหญ่) จังหวัดพิษณุโลก เข้าสู่จังหวัดแพร่ ตั้งแคมป์ใช้ชีวิตร่วมกับชุมชนแบบเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแบบไม่ปล่อยมลพิษ “Zero Carbon” และมุ่งหน้าปลายทางจังหวัดเชียงราย ทดลองระบบสั่งการด้วยเสียง และเทคโนโลยี Vehicle to Load (V2L) เทคโนโลยีที่เปลี่ยนไฟฟ้าจากรถออกไปใช้งาน ในโหมดสำหรับแคมปิ้ง (Camping Mode) ตอบสนองการใช้งานในการเดินทางประจำวันรวมถึงการเดินทางระยะไกล พร้อมมอบประสบการณ์ในการขับขี่ปลอดภัย ล้ำสมัย และสะดวกสบาย

ดีไซน์เสมือนแสงแห่งการเคลื่อนไหว

ดีไซน์แบบครอสโอเวอร์ถือเป็นหนึ่งในจุดเด่นของรถยนต์ OMODA C5 EV ที่มาในคอนเซ็ปต์ “Light of Movement” การออกแบบภายนอกตัวรถให้เล่นแสงและเงาอย่างลงตัว ดีไซน์สุดล้ำสมัย สะท้อนตัวตนผู้ขับขี่รุ่นใหม่ที่มีสไตล์ไม่ซ้ำใครและเป็นผู้นำเทรนด์ ดีไซน์ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมห้องโดยสารกระจกหน้าต่างคู่หน้าแบบลดเสียงรบกวนภายนอก กล้อง 540 องศา ไฟเรืองแสงล้อมรอบห้องโดยสาร 64 เฉดสี หน้าจอแสดงผลขนาด 24.6 นิ้วแบบทัชสกรีน ลำโพง SONY 8 ตำแหน่งสุดกระหึ่ม เบาะนั่งคู่หน้ากับฟังก์ชันระบายอากาศ เสริมความสะดวกสบาย ในการเดินทางครั้งนี้ยังได้ทดลองระบบการตั้งค่าสำหรับสัตว์เลี้ยง (Pet Friendly Setting) ที่ช่วยให้สัตว์เลี้ยงรออยู่ในรถได้อย่างสบายใจโดยไม่ก่อนให้เกิดมลพิษและช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

การทดสอบ OMODA C5 EV จากใต้จรดเหนือในครั้งนี้ ตลอดการเดินทางกว่า 2,000 กิโลเมตร มีค่าใช้จ่ายราว 2,400 บาท  (DC Charging) เท่านั้น ถืออีกเครื่องยืนยันว่ารถยนต์ไฟฟ้า 100% คันแรกจากแบรนด์ OMODA & JAECOO คันนี้ พร้อมแล้วที่จะส่งมอบประสบการณ์ฏารขับขี่ที่เหนือระดับให้กับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ หมดห่วงเรื่องความปลอดภัยและความสะดวกสบาย สามารถออกไปใช้ชีวิตได้อย่างเต็มที่ที่ใจฝัน ผู้ขับขี่ชาวไทยทุกคนเตรียมเป็นเจ้าของยนตรกรรมแห่งอนาคต พร้อมให้เปิดจองภายในไตรมาส 3 ของปีนี้อย่างแน่นอน ด้วยศูนย์บริการแบบครบวงจรจากผู้แทนจำหน่ายกว่า 36 แห่งทั่วทุกภูมิภาค ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ภายในปี 2567 ให้ความเชื่อมั่นพร้อมสนับสนุนและช่วยเหลือผู้ขับขี่ในประเทศไทยอย่างเต็มที่ เพื่อส่งมอบบริการที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งาน และเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้าทุกคน

ข่าวที่น่าสนใจอื่นๆ

Youtube
Home
Please follow and like us:

Related Articles

Verified by MonsterInsights