หลาย ๆ คนคงรู้ดีอยู่แล้วว่าตอนนี้ตลาดรถยนต์ ECO Car กำลังมาแรงในช่วงนี้ ซึ่งฮอนด้าก็เป็นหนึ่งในนั้น เนื่องจากฮอนด้าพึ่งได้เปิดตัว ฮอนด้า ซิตี้ 1.0 เทอร์โบ ใหม่ เมื่อเร็ว ๆ นี้ เป็นครั้งแรกของทางฮอนด้า ซิตี้ ที่นำเอาเทอร์โบมาช่วยในการอัดอากาศเข้าไปยังห้องเผาไหม้ โดยลดขนาดเครื่องยนต์ลงเป็น 1.0 ลิตร และจำนวนกระบอกสูบจาก 4 เป็น 3 แต่การลดขนาดเครื่องยนต์ลงไม่ได้ทำให้ฮอนด้า ซิตี้ เจเนอเรชั่นที่ 5 นี้ด้อยกว่ารุ่นพี่แต่อย่างใดเลย สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 200 กิโลเมตรต่อชั่วโมงอีกด้วย
บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด ได้เชิญสื่อมวลชนร่วมทดสอบสมรรถนะ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ เพื่อให้ได้สัมผัสกับขุมพลังเทอร์โบเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร VTEC TURBO 122 แรงม้า ให้อัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยม โดยการทดสอบนี้จะเป็นเส้นทางจากอำเภอเมือง มุ่งหน้าสู่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย รวมระยะทางไป-กลับกว่า 196 กิโลเมตร
ก่อนเริ่มกิจกรรมการทดสอบสมรรถนะฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ คณะสื่อมวลชนได้ร่วมรับฟังข้อมูลและรายละเอียดของการพัฒนาฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ จาก มร. ซาโตรุ อะซุมิ หัวหน้าทีมวิศวกรผู้พัฒนา ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ บริษัท ฮอนด้า อาร์แอนด์ดี จำกัด ประเทศญี่ปุ่น
ดีไซน์ภายนอกของฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ โดดเด่นด้วยไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED และไฟท้ายแบบ LED กระจังหน้าแบบโครเมียม เสาอากาศแบบครีบฉลาม และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ขนาด 15 นิ้ว(เฉพาะรุ่น SV และ V ) , ล้อขนาด 15 นิ้ว พร้อมฝาครอบล้อ (เฉพาะรุ่น S) และอีกหนึ่งรุ่นมาพร้อมกับชุดแต่งสไตล์สปอร์ตแบบ RS รอบคัน ไฟหน้าดีไซน์ใหม่แบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างสำหรับการขับขี่ในเวลากลางวันแบบ LED ไฟตัดหมอกแบบ LED และล้ออัลลอยดีไซน์สปอร์ตขนาด 16 นิ้ว (เฉพาะรุ่น RS)
ดีไซน์ภายในของฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ เน้นความเรียบง่าย ทันสมัย โดยยึดหลักของฮอนด้าในการพัฒนา คือ “Man-Maximum Machine-
Minimum” ด้วยการออกแบบพื้นที่ให้สอดคล้องกับสรีระ เพื่อความสะดวกสบายในทุกที่นั่งทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร เบาะที่นั่งดีไซน์ใหม่ ทั้งแบบเบาะหนังกลับ ตกแต่งด้วยด้ายสีแดง (เฉพาะรุ่น RS) เบาะหนัง (เฉพาะรุ่น SV) และเบาะผ้า (รุ่น V และ S) ภายในห้องโดยสารโทนสีดำ หรือภายในสีทูโทน ไอเวอรี่/ดำ (เฉพาะรุ่น SV)
มาตรวัดเรืองแสงพร้อมหน้าจอแสดงข้อมูลการขับขี่ มาตรวัดเรืองแสงสีแดง (เฉพาะรุ่น RS) หรือสีขาว (เฉพาะรุ่น SV และ V) และพวงมาลัยแบบมัลติฟังก์ชันพร้อมปุ่มควบคุมระบบเครื่องเสียงและปุ่มรับ-วางสายโทรศัพท์
เครื่องยนต์ขุมพลังเทอร์โบใหม่ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว มาพร้อม Turbo Charger ที่อัดอากาศเข้าสู่ห้องเผาไหม้ของเครื่องยนต์ได้เร็วขึ้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการเผาไหม้ได้อย่างรวดเร็ว ให้กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบ/นาที ตอบสนองได้ทันใจด้วยแรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 – 4,500 รอบ/นาที ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร(เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม) และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมตามมาตรฐานไอเสียยูโร 5 (EURO 5) ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ 99 กรัม/กิโลเมตร และสามารถรองรับน้ำมัน E20 ได้
สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าของเครื่องยนต์ 1.0 ลิตร VTEC TURBO ประกอบด้วยเทคโนโลยีหลักๆ ดังนี้
- ระบบฉีดน้ำมันเชื้อเพลิงแบบฉีดตรง (Direct Injection)
- Dual VTC ระบบแคมชาฟท์
- ระบบแปรผันระยะยกของวาล์ว VTEC เป็นการแปรผันระยะยกของวาล์วไอดี เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการประจุไอดีจำนวนมากเข้าสู่ห้องเผาไหม้
- อินเตอร์คูลเลอร์แบบน้ำ (Water-Cooled Type Intercooler) เป็นการระบายความร้อนอากาศที่มาจากการบูสท์ของเทอร์โบด้วยน้ำที่ติดตั้งมากับเครื่องยนต์ 1.0L VTEC TURBO
- เทอร์โบชาร์จเจอร์และวาล์วเวสเกตไฟฟ้า
ในระหว่างเส้นทางการทดสอบ ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่ บนเส้นทางจากอำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย มุ่งหน้าสู่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ได้สัมผัสประสบการณ์การขับขี่พลังของ พลังเทอร์โบใหม่ เครื่องยนต์ 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO 3 สูบ 12 วาล์ว ให้สมรรถนะการขับขี่ที่เหนือกว่าเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร (เมื่อเทียบกับรุ่นเดิม) และแรงบิดเทียบเท่าเครื่องยนต์ขนาด 1.8 ลิตร
ระบบเกียร์เป็นเกียร์อัตโนมัติอัตราทดแปรผันต่อเนื่อง (CVT) ให้อัตราเร่งและอัตราการประหยัดน้ำมันที่ดีเยี่ยมสูงถึง 23.8 กิโลเมตร/ลิตร ตอบสนองทุกการขับขี่ด้วยระบบควบคุมการเปลี่ยนเกียร์ที่พวงมาลัยแบบ 7 สปีด คันเร่งตอบสนองดีเยี่ยม เร่งแซงได้ทันใจ ถึงจะเป็นเครื่องยนต์ 3 สูบ แต่การทำงานของเครื่องในความเร็วสูงเครื่องยนต์ยังสามารถรีดความเร็วออกมาได้อีก ได้ลองกดคันเร่งออกตัวแบบสุดจาก 0-100 กม./ชม. ซึ่งทำเวลาได้ประมาณ 9 วินาทีเศษๆ และพวงมาลัยควบคุมง่าย ในความเร็วต่ำพวงมาลัยจะมีน้ำหนักเบา ทำให้การขับขี่ที่สะดวกสบายไม่ว่าจะเป็นในเมืองหรือต่างจังหวัด
ช่วงล่างเน้นความนุ่ม นั่งสบายทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร แต่ยังคงมีความหนึบอยู่ในระดับหนึ่ง ในการเข้าโค้งในระดับความเร็วที่ 140 กิโลเมตรขึ้นไปถือว่าทำได้ดี แต่อาการเด้งนิดหน่อย แต่ไม่ทำให้เสียอาการควบคุมมากนัก บวกกับการทำงานของพวงมาลัยไฟฟ้าที่แปรผันตามเร็วทำให้สามารถควบคุมรถให้อยู่ในทางได้ ระบบเบรคมีระบบป้องกันล้อล็อก (ABS) และระบบกระจายแรงเบรก มั่นใจได้เมื่อเหยียบเบรคในทุกสถานะการณ์ เบรคนุ่มนวลแต่เอาอยู่
ฮอนด้า ซิตี้ ใหม่นี้ถือว่าเป็นรถใช้งานทั่วไปแต่แอบแฝงความสปอร์ตมาให้ผู้งานได้ขับแบบสนุกๆกัน ส่วนเรื่องค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอาจมีเพิ่มกว่ารุ่นธรรมที่ไม่ใช่เทอร์โบนิดหน่อย เนื่องด้วยเป็นรถที่ขับสนุกและมีเทอร์โบ เพราะฉะนั้นเพื่อถนอมเครื่องยนต์ให้อยู่กับเรานานๆควรเข้าตรวจเช็คระยะตามที่กำหนดทุกครั้ง แต่ไม่ต้องกังวนไปเพราะในรถจะมีการแจ้งเตือนสถานะบอกให้เข้าศูนย์บริการเพื่อเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง และเช็คอุปกรณ์ต่างๆของเคื่องยนต์
มีให้เลือกทั้งหมด 4 รุ่น ได้แก่
- รุ่น RS ราคา 739,000 บาท
- รุ่น SV ราคา 665,000 บาท
- รุ่น V ราคา 609,000 บาท
- รุ่น S ราคา 579,500 บาท
สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.honda.co.th/city