ปลายปีนี้ตลาดรถยนต์พลังงานไฟฟ้าเดือดแน่นอน เมื่ออาวดี้ ประเทศไทย ตอกย้ำจุดยืนในการเป็นผู้นำเทรนด์ยานยนต์ ยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% ก้าวไปอีกขั้นเปิดตัว “The New e-tron Sportback” รถยนต์พลัง งานไฟฟ้า 100% โมเดลที่ 2 เป็นแบรนด์แรกในประเทศไทย ชูจุดเด่นและความสมบูรณ์แบบทางเทคโนโลยีไฟฟ้า 100% ตอบรับกลยุทธ์ของ AUDI AG ที่กำหนดนิยามใหม่ของ “Vorsprung” ให้มีความทันสมัย สะท้อนจุดยืน ความพร้อม และบทบาทของแบรนด์ Audi
สำหรับยุคยานยนต์ใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า พร้อมเปิดตัว “แคมเปญ Branding ใหม่พร้อมกันทั่วโลกกับสโลแกน “Future is An Attitude” พร้อมชูจุดเด่นและความสมบูรณ์แบบของเทคโนโลยี ดีไซน์ที่สะท้อน DNA ของ Audi ลุคสปอร์ตพรีเมียมและสมรรถนะอันยอดเยี่ยม โดยเฉพาะระยะทางที่วิ่งได้ถึง 463 กิโลเมตร ต่อการชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 1 ครั้ง มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีทั้งจากลูกค้าและองค์กรชั้นนำ ที่ชื่นชอบความก้าวล้ำของเทคโนโลยี รวมถึงแนวคิดความรับผิดชอบต่อสังคม (Green Energy) พร้อมเปิดจองและส่งมอบทันทีใน ราคา 5,299,000 บาท
นายกฤษณะกร เศวตนันทน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาวดี้ ประเทศไทย เปิดเผยว่า
ผลตอบรับจากการเปิดตัว Audi e-tron รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% เป็นครั้งแรกในประเทศไทยเมื่อต้นปี 2562 ทาง Audi ได้รับความไว้ วางใจจากลูกค้าและองค์กรชั้นนำ เช่น บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) ถึงความประทับใจในการใช้งานจริง นอกเหนือจากจะเป็นการใช้พลังงานที่ยั่งยืนแล้ว ยังให้ประสบการณ์ขับขี่ที่น่าตื่นเต้น ท้าทาย อาวดี้ ประเทศไทย จึงไม่รีรอที่จะนำรถยนต์พลังงานไฟ้ฟ้า 100% โมเดลที่ 2 เข้ามาให้คนไทยได้สัมผัสอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดเปิดตัว “Audi e-tron Sportback 55 quattro S line” รถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% ที่มีอัตราเร่งเหลือเชื่อ มาพร้อมสมรรถนะทรงพลัง อารมณ์สปอร์ต และแน่นอนความรู้สึกที่ยอดเยี่ยมในการขับขี่โดยไม่สร้างมลภาวะให้กับโลก
Audi e-tron Sportback 55 quattro S line เอสยูวีทรงสปอร์ตคูเป้ สมรรถนะสูง ทรงพลัง ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า 100% รุ่นใหม่ มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะแบบไฟฟ้า (electric quattro) มอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง ให้พละกำลังสูงสุดถึง 300 กิโลวัตต์ หรือ 408 แรงม้า ระยะทางวิ่งสูงสุด 463 กิโลเมตรต่อการชาร์จไฟ หนึ่งครั้ง (อ้างอิงตามผลการทดสอบโดยใช้มาตรฐาน NEDC)
การขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่งผสมผสานกับระบบขับเคลื่อน quattro ไฟฟ้าทำให้ตอบสนองฉับไว ให้ประสบการณ์การขับขี่ที่สมบูรณ์แบบ ตื่นเต้น เร้าใจ และสนุกสนาน ขณะที่ความเงียบภายในห้องโดยสารให้ความรู้สึกที่ยอดเยี่ยม รื่นรมย์ เพลิดเพลิน ทั้งผู้ขับขี่และผู้โดยสาร
เทคโนโลยีระบบขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้าของ e-tron Sportback 55 quattro S line มีการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ (Recuperation) อย่างชาญฉลาด 2 รูปแบบ คือ ทั้งจากพลังงานจากการปล่อยให้รถวิ่งในลักษณะลอยตัว (Coasting) และพลังงานจากการเบรก (Braking)
รูปแบบที่ 1 :
พลังงานจากการปล่อยให้รถวิ่งในลักษณะลอยตัว ซึ่งมีวิธีการตั้งค่าการทำงานรูปแบบนี้ 2 วิธี คือ ตั้งค่าจากแป้น paddle shift ที่สามารถเลือกปรับได้ 3 ระดับ และผู้ขับขี่สามารถเลือกที่จะตั้งระดับการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่โดยอัตโนมัติผ่านฟังก์ชัน Predictive efficiency assist (PEA) ในระบบ MMI ได้อีกด้วย จากการประมวลผลและควบคุมการเคลื่อนที่เชิงฟิสิกส์ ส่งผลให้ผู้ขับขี่สามารถควบคุมความเร็วของรถได้จากการถอนเท้าออกจากคันเร่ง โดยที่ไม่ต้องเหยียบเบรกได้
รูปแบบที่ 2 :
พลังงานจากการเบรก (Braking) เมื่อผู้ขับขี่เหยียบเบรกจะส่งผลให้เกิดพลังงานกลับเข้ามาในระบบการขับขี่ หากเหยียบเบรกที่ความเร็ว 100 กิโลเมตร/ชั่วโมง จะสามารถนำพลังงานกลับเข้าไปได้สูงสุดถึง 300 Nm และ 220 Kw หรือคิดเป็นมากกว่า 70% ของกำลังที่มอเตอร์ผลิตได้ และการนำพลังงานกลับมาใช้ใหม่ในรุ่น e-tron Sportback นี้ สามารถเพิ่มระยะทางการขับขี่ได้มากถึง 30% ของระยะทางทั้งหมด
Audi e-tron Sportback 55 quattro S line
นับเป็นยนตรกรรมพลังงานไฟฟ้า 100 % ที่สามารถตอบสนองการใช้งานจริงในชีวิตประจำวันอย่างสมบูรณ์แบบ Audi ได้นำประสบการณ์การพัฒนาระบบขับเคลื่อนสี่ล้ออัจฉริยะมากว่า 40 ปี มาพัฒนาระบบขับเคลื่อน 4 ล้ออัจฉริยะแบบไฟฟ้า (electric quattro) และยังเป็นผู้ผลิตรถยนต์ แบรนด์แรกที่พัฒนาเทคโนโลยีการขับเคลื่อนด้วยมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตำแหน่ง อีกด้วย
การออกแบบ
การออกแบบให้มีความปลอดภัยที่เหนือระดับ จุดศูนย์ถ่วงของรถที่ต่ำลง ทำให้เกาะถนนได้ดีขึ้น ขับขี่ได้คล่องแคล่ว แม่นยำ ขณะที่ Balance ของตัวรถ มีการออกแบบการจัดวางส่วนประกอบต่างๆ ของรถมาอย่างลงตัว ทำให้กระจายน้ำหนักได้อย่างสมดุล โดย Perfect balance อยู่ที่ 50:50
ในกรณีที่มีการติดตั้งอุปกรณ์เสริมพิเศษ กล้องแสดงภาพด้านข้าง (Virtual exterior mirrors) นวัตกรรมด้านความสะดวกสบายและความปลอดภัย จะมีจอแสดงผล OLED ความละเอียดสูงขนาด 7 นิ้ว พร้อมฟังก์ชันควบคุมแบบสัมผัส ที่ติดตั้งบริเวณแผงประตูซ้าย-ขวา ทำให้ผู้ขับขี่สามารถมองเห็นภาพด้านข้างตัวรถที่ชัดเจนยิ่งขึ้นแม้อยู่ในสภาวะการเดินทางที่ไม่เอื้อ อำนวย
e-tron Sportback 55 quattro S line ได้รับการออกแบบให้มีความล้ำสมัย สปอร์ต สมบูรณ์แบบ ภายใต้แนวคิดมุมมองใหม่สำหรับรถยนต์พลังงานไฟฟ้า 100% โดยกระจังหน้าแบบคลาสสิกถูกอัพเกรดใหม่เป็น Single frame เส้นสาย รูปทรง สะท้อนเอกลักษณ์ของ Audi คือ ลุคสปอร์ต ขณะที่รูปทรงคูเป้ให้ความสง่า งามในแบบสปอร์ต เส้นสายมีความไดนามิก เพิ่มความแข็งแกร่งดุดัน โดดเด่นด้วยชุดแต่งภายนอกสไตล์สปอร์ต S line สปอยเลอร์หลังและขอบประตูอะลูมิเนียม
ภายในห้องโดยสารมีการตกแต่งภายในและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่ผสมผสานดีไซน์ฟังก์ชัน เทคโนโลยีและลุคสปอร์ตพรีเมียมเข้าไว้ด้วยกัน เรียบหรู กว้าง สะดวกสบาย
จอแสดงข้อมูลการขับขี่แบบ Virtual cockpit plus ขนาด 12.3 นิ้ว และจอควบคุมมัลติฟังก์ชันแบบสัมผัส พร้อมตอบสนองการสั่งงาน (haptic feedback) ขนาด 8.6 นิ้ว รองรับการสั่งการด้วยการเขียนด้วยนิ้ว เชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถืออย่างง่ายดายด้วย Audi smartphone interface ระบบเครื่องเสียงระดับพรีเมียม Bang & Olufsen พร้อมระบบเสียง 3 มิติ
หลังคาเป็นแบบพาโนรามิคเลื่อน เปิด-ปิด ด้วยระบบไฟฟ้าให้บรรยากาศที่รื่นรมย์ด้วยแสงสว่างจากธรรมชาติ แพ็คเกจ “Interior S line” ของ Audi e-tron Sportback เบาะนั่งหุ้มหนัง Valcona คุณภาพสูง ให้ผิวสัมผัสที่ละเอียด เบาะนั่งคู่หน้าแบบ S Sports ตกแต่งแบบ diamond cut พร้อมสัญลักษณ์ S line พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันท้ายตัดหุ้มหนังแบบสปอร์ต พร้อมสัญลักษณ์ S line และ Paddle shift
ให้เลือกทั้งหมด 6 สี ได้แก่ Glacier white metallic, Floret silver metallic, Mythos black metallic, Daytona grey pearl effect, Siam beige metallic และ Antigua blue metallic โดยมีราคาจำหน่ายที่ 5,299,000 บาท กำหนดส่งมอบตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 เป็นต้นไป